Powered By Blogger

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

My Food My Lifestyle

    สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เรื่องที่ผมจะเขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเภทอาหารที่ผมทานเป็นประจำในทุกวัน ซึ่งประเภทอาหารดังกล่าวก็คือ อาหารที่ให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ เนื่องจากว่าตัวผมออกกำลังกายแบบสร้างกล้ามเนื้อ "เวทเทรนนิ่ง" และการออกกำลังกายประเภทนี้จะทำให้กล้ามเนื้อสึกหรอ การสึกหรอในที่นี้มีผลมาจากเซลล์กล้ามเนื้อได้รับการยกน้ำหนักที่หนักมากๆ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ร่างกายจึงต้องการสารอาหารที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ตามที่่เราเคยได้เรียนมาตั้งแต่เด็กๆ นั้นก็คือ "โปรตีน"

    ในทุกๆ วันผมต้องตื่นขึ้นมาทำอาหารทานเองสองมื้อคือ มื้อเช้า และมื้อเที่ยง ถ้าวันไหนตอนเที่ยงต้องออกไปเรียนหรือไปข้างนอก ก็จะทำแล้วใส่กล่องนำไปทานด้วย ส่วนอาหารที่ผมทำนั้นก็เป็นเมนูที่ทำง่ายมากๆ และเป็นอาหารที่มีไขมันน้อย หรือที่เรียกกันว่าอาหารคลีน เพราะเมนูที่ผมทำก็คือ อกไก่ลอกหนังต้ม ทานกับข้าวกล้องที่หุงในทุกเช้า โดยไม่มีการปรุงรสใดๆ ตอนต้มไก่เลย ถึงแม้รสชาติมันจะจืดชืด แต่มันก็มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพของตัวเองในระยะยาวด้วยครับ

อกไก่กิโลละ 68 บาท เท่านั้น

    นี่คือแหล่งที่ผมไปซื้ออกไก่เป็นประจำครับ ที่นี่คือห้างเทสโก้โลตัส ผมมาห้างแห่งนี้วันเว้นวัน เนืื่องจากอกไก่ที่ซื้อจากทีนี่จะเก็บได้เพียง 2 วัน เท่านั้น ถ้าซื้อไปตุนไว้ในตู้เย็นก็จะเสียแล้วก็ทานไม่ได้ต้องทิ้งสถานเดียว ที่จริงแถวบ้านของผมมีตลาดสด แต่ผมไม่ค่อยชอบซื้อเนื้อสัตว์จากตลาดด้วยเหตุผลสองข้อครับ ข้อแรกคือราคาแพงกว่าห้าง ข้อที่สองคือเนื้อที่ซื้อมามักจะมีกลิ่นเหม็นและไม่ค่อยได้คุณภาพ ผมจึงเลือกซื้อในห้างที่ห่างออกไปจากบ้านผมประมาน 2 กิโลเมตร อีกข้อดีของการซื้อของในห้างแห่งนี้คือ ได้สะสมแต้มลงบัตรสมาชิกครับ ซึ่งในตลาดสดคงไม่มีอะไรแบบนี้แน่นอน โดยแต่ละครั้งที่ผมมาซื้ออกไก่ ก็จะซื้อแค่ 1 กิโลกรัม เท่านั้น และในหนึ่งวันผมจะนำอกไก่ 5 ขีด ออกมาทำอาหารได้ 2 มื้อ เท่ากับว่าสองวันไก่จะหมดพอดี


วันนี้ซื้อแค่ 8 ขีด 58.5 บาท 

    แต่ผมไม่ได้ทานไก่อย่างเดียวในทุกๆ วันนะครับ ยังมีอาหารที่โปรตีนสูงชนิดอื่นที่ผมเลือกทานได้อีกหลายอย่าง อย่างแรกคือ ทูน่ากระป๋อง ทูน่ากระป๋องเป็นอาหารที่ทานสะดวกและมีคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก ทูน่าที่ผมเลือกทานจะเป็นทูน่าในน้ำเกลือ หรือในน้ำแร่เท่านั้น เพราะต้องการหลีกเลี่ยงไขมันให้ได้มากที่สุดครับ ส่วนยี่ห้อที่ผมเลือกก็คือ อะไรก็ได้แต่เน้นถูกไว้ก่อนครับ ยี่ห้อไหนมีโปรโมชั่นก็เอาอันนั้น ในความคิดผม อาหารกระป๋องประเภทนี้จะไม่ค่อยต่างกันซักเท่าไหร่ อันไหนก็เหมือนกันครับ

ทูน่ากระป๋องหลากหลายยี่ห้อ

ทูน่าในน้ำเกลือ 

    อาหารโปรตีนสูงอีกประเภทที่ทานสะดวกและเชื่อว่าทุกบ้านต้องมีอยู่ในตู้เย็นแน่นอนเลยก็คือ นมวัว นมเป็นสิ่งที่เราทานกันมาตั้งแต่เด็ก และเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก หาซื้อได้ง่าย นมวัวมีหลายยี่ห้อและหลายสูตรมากครับ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีรสชาติแตกต่างกันเล็กน้อย ส่วนสูตรของนมจะมีให้เลือกสามอย่างหลักๆ เลยก็คือ นมธรรมดา นมไขมันต่ำ และนมไขมัน 0 % สูตรที่ผมเลือกก็จะเป็น นมธรรมดา เนื่องจากว่านมชนิดนี้จะมีสารอาหารที่มีประโยชน์อยู่ครบถ้วนครับ ต่างจากสูตรที่พร่องมันเนยหรือไขมันต่ำ ที่จะเอาสารอาหารสำคัญๆ ออกไปเพื่อทีี่จะให้มีไขมันน้อย และรสชาติของนมปกติจะอร่อยกว่าแบบไขมัน 0% เพราะมีความหอมมันของนมวัวอยู่ แต่สูตรไม่มีไขมันจะเหมือนทานน้ำเปล่ากลิ่นนมครับ


นมที่ผมทานจะเป็นยี่ห้อเมจิฝาสีน้ำเงินเท่านั้นครับ ความชอบส่วนตัว





    อาหารโปรตีนสูงประเภทสุดท้ายที่ผมทานประจำคงจะเรียกว่าเป็นอาหารหลักไม่ได้ครับ เพราะมันคืออาหารเสริม เวย์โปรตีน หรือโปรตีนผงละลายน้ำครับ เวย์โปรตีนจะไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปเหมือนอาหารประเภทที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น เวย์โปรตีนจะเป็นอาหารเสริมของคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น และส่วนมากจะมีราคาสูง แลกกับความสะดวกและปริมาณโปรตีนที่สูงมากๆ สูงกว่าทุกอย่างที่กล่าวมาเลยล่ะ 


เวย์โปรตีน ขนาด 2.6 กิโลกรัม ราคา 2099 บาท


รสชาติและยี่ห้อของเวย์โปรตีนจะมีหลากหลายมาก มากจนกล่าวไม่หมดในบทความนี้ ซึ่งจุดเด่น ของเวย์โปรตีนที่มีราคาแสนจะแพงนี้ก็คือ การดูดซึมเข้าร่างกาย เวย์โปรตีนมีการดูดซึมหรือการย่อยหลังทานที่เร็วมาก เช่น ทานไป 1 แก้ว 2 ช้อนตวง (60 กรัม) 10 นาทีเราก็รู้สึกหิวแล้ว แต่โปรตีนที่เราได้รับจากที่ทานไป เทียบเท่ากับนมวัว 1 ลิตร เลยทีเดียว การทานเวย์โปรตีนก็ง่ายๆ แค่ตักผงใส่กระบอกน้ำ เทน้ำใส่ เขย่าให้เข้ากัน แล้วทานได้เลยครับ สะดวกและรวดเร็ว


ตารางข้อมูลโภชนาการของเวย์โปรตีน จะเห็นว่าให้โปรตีนสูงมากๆ

ทานง่ายแค่ผสมน้ำเปล่า


    การเลือกทานอาหารของผมอาจจะแปลกแตกต่างไปจากคนทั่วไป และมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก อีกทั้งรสชาติอาหารยังขาดความหลากหลาย ซึ่งในแต่ละคนก็อาจจะมีความชอบที่จะเลือกทานอาหารแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่สำคัญที่ผู้เขียนอยากจะบอกกับผู้อ่านทุกท่านก็คือ ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด ครบห้าหมู่ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยสามมื้อต่อวัน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพแข็งแรง มีชีวิตที่ดีและมีความสุข อย่าลืมใส่ใจเรื่องอาหารและสุขภาพตั้งแต่วันนี้ เพื่อตัวเราเองและคนที่เรารักนะครับ สวัสดีครับ










วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

Cornflakes Blueberrymilk With Banana

     สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน  วันนี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความหิวในตอนสายๆ และอยากจะหาอะไรทานให้เร็วที่สุด ที่สำคัญรสชาติต้องดี มีประโยชน์ แต่ก็ขี้เกียจออกจากบ้านไปซื้อกับข้าวหรือไปนั่งกินที่ร้าน บวกกับแสงแดดที่ร้อนจนแสบผิวไปหมด ทำให้ผมไม่อยากออกไปซื้อของกินข้างนอก ผมจึงหาของในบ้านทานมันนี่แหละ ด้วยความขี้เกียจบวกกับอาหารที่มีจำกัดอยู่ในบ้าน จึงกลายมาเป็นเมนูนี้

เมนูที่ว่านี้มันมีส่วนประกอบอยู่ 3 อย่าง คือ 

1. Corn Flakes (ซีเรียลอาหารเช้านั่นแหละ)


2. นมเปรี้ยวดัชมิลล์รสบลูเบอรี่

3. กล้วยหอม



     โดยปกติแล้วซีเรียลอาหารเช้าที่ผมทานก็มักจะใส่กับนมจืด นมหวาน หรือนมถั่วเหลือง แต่วันนี้ในตู้เย็นมีแค่นมเปรี้่ยวขวดนี้ ก็เลยต้องเอามาใส่กับซีเรียล เพราะมันไม่มีอะไรจะใส่แล้ว จะกินกับน้ำเปล่าก็คงไม่ใช่ จะกินแห้งๆ ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่ ว่าแล้วก็จัดการเทซีเรียลใส่ชามและตามด้วยนมเปรี้ยว 



































     ซึ่งผมเป็นคนที่กินเยอะอยู่แล้วในแต่ละมื้อ เพราะผมเป็นคนที่ออกกำลังกายหนักมาก จำเป็นต้องทานอาหารให้คงสภาพน้ำหนักตัวไม่ให้ลดลง ถ้าทานอาหารน้อยไป จะกลายเป็นคนผอมและไม่มีแรง เลยคิดว่าแค่ซีเรียลใส่นมคงไม่อยู่ท้องแน่ๆ ว่าแล้วก็เพิ่มกล้วยหอม 1 ผล ใส่ไปด้วย เตรียมอาหารทุกอย่างเสร็จพร้อมทาน ใช้เวลาไปไม่มากนักถ้าไม่ต้องมาถ่ายรูปลงบล็อคนี้(ฮ่าๆ) ส่วนหน้าตาอาหารก็ออกมาใช้ได้เหมือนกัน ซีเรียลในนมเปรี้ยวรสบลูเบอรี่ใส่กล้วยหอม



















     หลังจากที่ได้ทานคำแรกก็รู้สึกถึงความไม่เข้ากัน อาจจะเพราะมันแปลกเนื่องจากปกติจะใส่นมจืด ครั้งนี้เป็นนมเปรี้ยวเลยอาจจะไม่คุ้น แต่ไม่ใช่ว่ารสชาติิแย่ไปซะทีเดียว ด้วยความเปรี้ยวของนม บวกกับความหวานของกล้วยหอมและความกรอบของซีเรียล มันก็ทานได้อร่อยดี  และจากที่ผมบอกในตอนต้นที่ว่าเป็นคนทานเยอะ ในครั้งนี้ผมทานไม่หมด เพราะความเลี่ยนของนมเปรี้ยว และกล้วยหอมที่แน่นท้องเอามากๆ เห็นชามแค่ในรูปอย่าคิดว่ามันน้อยนะครับ พอได้ทานจริงมันเยอะมากเลยแหละ เยอะจนตอบสนองความต้องการของผมได้แบบแน่นท้องเลย ทำให้อิ่มไปประมาณ 3 ชั่วโมง แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย 

     สำหรับใครที่ทานซีเรียลแบบนี้บ่อยๆ ลองหาอะไรแปลกๆ เช่น ผลไม้ น้ำเต้าหู้ร้อนๆ มาใส่ลงไปบ้างก็ได้ บางทีเราอาจจะได้เมนูใหม่ๆ ที่สะดวกและทานง่ายในเวลาเร่งรีบ หรือวันที่ขี้เกียจ แต่ไม่รับประกันว่าจะท้องเสียหรือเปล่านะ อาจจะอร่อยปากแต่ลำบากกายในภายหลังก็ได้นะครับคุณผู้อ่าน ^^

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

มหัศจรรย์ข้าวกล้อง

     พูดถึงข้าวกล้องคงจะไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่ เพราะข้าวกล้องขึ้นชื่อเรื่องที่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สารอาหารและวิตามินที่อยู่ในข้าวกล้อง เช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 แคลเซียม แมกนีเซียม ล้วนมีสรรพคุณในการป้องกันโรคได้หลากหลายชนิด จึงทำให้คนที่รักสุขภาพหันมาทานข้าวกล้องกันมากขึ้น

     คุณวริยา สัมพันธ์แพ อายุ 22 ปี (นักศึกษามหาวิทยาลัย) เป็นบุคคลที่รับประทานข้าวกล้องมาเป็นเวลานาน และในครั้งนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์เรื่องราวเกี่ยวกับประโยชน์ของข้าวกล้อง และผลดีในการทานข้าวกล้องเป็นประจำของคุณวริยา ว่ามีผลเป็นอย่างไรบ้าง


Q:ทราบมาว่าทานข้าวกล้องเป็นประจำ ไม่ทราบว่าเริ่มทานได้อย่างไรและทานมานานแค่ไหนแล้ว?

A:เริ่มทานตั้งแต่อยู่มัธยมต้นค่ะ ประมาณอายุ 14 ปี เพราะว่าในช่วงนั้นคุณแม่เริ่มสุขภาพไม่ค่อย    แข็งแรง ที่มีผลมาจากการเดินทางทุกวัน ก็เลยหันมารักษาสุขภาพ แล้วจากสื่อต่างๆ ก็บอกว่าข้าวกล้องมีประโยชน์ คุณแม่เลยลองรับประทานดู และก็หุงให้คนในบ้านทานด้วย ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆ ค่ะ แต่ตอนนี้ก็ทานจนชินไปแล้ว

Q:แล้วทานเป็นประจำทุกมื้อเลยหรือเปล่า เวลาที่ไม่ได้อยู่บ้านจะหาทานได้ยังไง?  

A:ใช่ค่ะ ทุกมื้อที่อยู่บ้านจะทานข้าวกล้องอย่างเดียวเลย ส่วนเวลาออกไปข้างนอก ก็มีบ้างครั้งนำข้าวใส่กล่องไปทาน แต่ถ้าวันไหนรีบก็ทานข้าวขาวตามร้านอาหารปกติได้ค่ะ


และนี่คือภาพตัวอย่างอาหารเมื่อทานอยู่ที่บ้าน

            
                                     
                         



Q:ประโยชน์ของข้าวกล้องมีอะไรบ้าง มันแตกต่างจากข้าวขาวธรรมดาอย่างไร?

A:แตกต่างกันค่ะ เพราะข้าวขาวจะเป็นข้าวที่ได้รับการขัดสีออกหมด ทำให้เหลือคุณค่าทางสารอาหารน้อยลง ข้าวขาวจะเหลือแต่คาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว ส่วนข้าวกล้องเป็นข้าวที่ผ่านการขัดสีน้อยหรือไม่ขัดเลย ทำให้มีประโยชน์มากกว่า ทั้งวิตามินต่างๆ เกลือแร่ สารอาหารต่างๆ ยังอยู่ครบ ทำให้อิ่มง่าย ร่างกายได้รับสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ แล้วก็สามารถทานเป็นเมนูในช่วงลดน้ำหนักได้ด้วย


Q:ผลจากการทานข้าวกล้องต่อเนื่องมานานแบบนี้ สุขภาพของเราเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่า?

A:เปลี่ยนเยอะเลย สิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็คือ รู้สึกสุขภาพดีขึ้น มีแรงมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่เป็นเด็กผอมๆ แห้งๆ ไม่ค่อยมีแรง ขาดสารอาหาร ส่วนตอนนี้ก็ดูดีขึ้นมาก อาการนิ้วมือที่เป็นขุยๆ ตรงเล็บเพราะขาดสารอาหารก็หายไป ร่างกายเป็นระบบมากขึ้น ขับถ่ายคล่องไม่มีปัญหา น่าจะเป็นเพราะสารอาหารในข้าวกล้องที่ช่วยให้ดีขึ้น และจากผลดีตรงนี้ก็ยิ่งทำให้ตัวเราอยากดูแลตัวเองมากขึ้น เช่น ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ออกกำลังกาย เพื่อที่จะมีสุขภาพที่ดีแบบนี้ตลอดไปค่ะ


Q:มีอะไรอยากบอกคนที่อยากจะเปลี่ยนมาทานข้าวกล้องไหม?

A:อยากให้ลองทานดูค่ะ ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ช่วงนี้มีคนหันมารักสุขภาพกันมาก การทานข้าวกล้องน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ นอกจากข้าวกล้องแบบธรรมดาแล้ว ยังมีข้าวที่มีประโยชน์อีกหลายประเภทให้ได้ลองทานกัน เช่น ข้าวกล้องงอก ข้าวหอมนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้องหอมมะลิแดง ยังไงก็หามาลองทานกันนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเองและคนที่คุณรักค่ะ

     และนี่ก็คืออีกหนึ่งประสบการณ์ของผู้ที่ทานข้าวกล้องเป็นประจำมาเป็นระยะเวลานาน จากคำตอบก็ทำให้รู้ว่าข้าวกล้องนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราจริงๆ สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพ เป็นแล้วรักษาไม่หาย อาการเรื้อรัง ลองเปลี่ยนมาทานข้าวกล้องและเลือกทานอาหารให้ครบห้าหมู่ดูบ้าง บางทีอาจจะเป็นเพราะร่างกายไม่ได้รับสารอาหารและวิตามินที่เพียงพอก็ได้ ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง และอย่างลืมเลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายกันด้วยนะครับ


ขอบคุณภาพอาหารและข้อมูลจาก คุณวริยา สัมพันธ์แพ

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

รู้หรือไม่ เราทานอาหารให้พลังงาน(เกิน)ความจำเป็น

ในแต่ละวันเราเลือกรับประทานอาหารหลากหลายชนิดแตกต่างกันไปตามความชอบและความต้องการของแต่ละคน อาหารเหล่านั้นได้ให้พลังงานที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่บางครั้งก็อาจจะเกินความจำเป็น เพราะเราอาจจะทานอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินความต้องการของร่างกายโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นสภาวะโภชนาการเกิน พูดง่ายๆ ก็คืออ้วนนั่นเอง ซึ่งบทความนี้จะพูดถึงอาหารประเภทขนมทานเล่นที่มักจะให้พลังงานสูงและนิยมทานกันในเวลาทำกิจกรรมต่างๆ 

อาหารหรือขนมสำเร็จรูปที่มีขายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อมักจะมีตารางข้อมูลโภชนาการอยู่ด้านหลังซอง ไม่ก็อยู่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ ในตารางคือข้อมูลโภชนาการและพลังงานทั้งหมดที่จะได้รับต่อหนึ่งหน่วยบริโภคเมื่อเราทานของในห่อนั้น ในขนมบางประเภทมักจะให้พลังงานสูงเพราะมีไขมันผสมอยู่จำนวนมาก แต่ในตารางจะบอกเพียงพลังงานที่ได้รับต่อหนึ่งหน่วยบริโภคเท่านั้น ตรงจุดนี้เองที่บางคนอ่านแล้วก็คิดว่าเป็นพลังงานของอาหารทั้งซองที่เราจะได้รับ แต่ที่จริงแล้วเป็นพลังงานเพียงแค่หนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งปริมาณอาหารทั้งหมดซองนั้นไม่ได้มีแค่หนึ่งหน่วยบริโภค แต่เรามักจะไม่สนใจอ่านว่าหนึ่งซองที่เราจะทานหมดมีกี่หน่วยบริโภค ถ้าหากเราทานขนมหมดซองภายในครั้งเดียวเราจะได้รับพลังงานเท่ากับจำนวนพลังงานของหนึ่งหน่วยบริโภค คูณกับจำนวนหน่วยบริโภคต่อซอง และนั่นอาจจะมากเกินไปสำหรับอาหารหนึ่งมื้อแบบปกติด้วยซ้ำ

ภาพตัวอย่าง


นี่คือภาพตัวอย่างของจำนวนแคลอรี่ในถั่วลิสงซองยี่ห้อหนึ่ง จากตารางจะบอกว่าพลังงานทั้งหมด 160 กิโลแคลอรี่ คนที่อ่านผ่านๆ แบบไม่ได้ใส่ใจก็จะเข้าใจว่าทานถั่วหมดซองนี้จะได้รับพลังงาน 160 กิโลแคลอรี่ แต่พลังงานดังกล่าวเป็นเพียงแค่หนึ่งหน่วยบริโภคเท่านั้น(หนึ่งหน่วยบริโภคของถั่วซองนี้เท่ากับ 30 กรัม แต่ถั่วทั้งซองมี 210 กรัม) ซึ่งจำนวนหน่วยบริโภคต่อซองของถั่วซองนี้เท่ากับ 7 เพราะฉะนั้นถ้าเราทานถั่วหมดในคราวเดียว เราจะได้รับพลังงานทั้งหมด 160x7 เท่ากับ 1,120 กิโลแคลอรี่ เป็นตัวเลขพลังงานที่มากประมาณอาหารตามสั่งสองมื้อเลยทีเดียว 

            พลังงานที่เราควรได้รับในแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับ เพศ วัย และกิจกรรมในแต่ละวันของเรา ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไป แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรี่ ต่อวัน ลองนึกดูว่าแค่ทานถั่วซองเดียวเราได้รับพลังงานไปพันกว่าๆ กิโลแคลอรี่ บวกกับอาหารปกติที่เราทานกันในแต่ละมื้อด้วยแล้ว พลังงานที่ได้รับเกินความจำเป็นของวันนั้นอย่างแน่นอน

อ่านถึงตรงนี้บางคนอาจจะถามว่า แล้วใครจะไปทานถั่วทีเดียวหมดซอง ต้องบอกก่อนว่าอาหารทานเล่นประเภทขบเคี้ยวจะมีไขมันผสมอยู่มากและทานไม่อิ่มท้อง เรามักทานของพวกนี้เวลาดูหนัง ทำงาน หรือกิจกรรมที่ผ่อนคลายเพลิดเพลินโดยไม่รู้สึกอิ่ม ทำให้เราไม่ได้นึกถึงว่าทานไปมากเท่าไร พอมาดูอีกทีอาหารก็หมดซองซะแล้ว ที่กล่าวถึงไม่ใช่เพียงแค่ถั่วอย่างเดียว แต่หมายถึงอาหารทานเล่นประเภทอื่นๆ ที่นิยมทานกันในเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย


เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อขนมหรือของทานเล่นตามห้างหรือร้านสะดวกซื้อ ให้สังเกตจำนวนหนึ่งหน่วยบริโภคต่อซองและพลังงานที่จะได้รับด้วย ถ้าเป็นพลังงานที่มากเกินความจำเป็น เราอาจจะเลือกทานแต่น้อยและเก็บไว้ทานในวันอื่น หรือแบ่งคนอื่นทานด้วยก็ได้ เป็นวิธีลดพลังงานที่เกินความจำเป็นของร่างกายที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของเราในระยะยาว และที่สำคัญเป็นการฝึกวินัยเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอดีต่อความต้องการ ไม่แน่หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว เมื่อไปเลือกซื้อขนมและพลิกหลังซองดูคุณอาจจะวางเก็บกลับที่เดิมก็ได้

อย่าลืมดูจำนวนหน่วยบริโภคด้วย